มะเร็งผิวหนัง

มะเร็งผิวหนัง คือเนื้อร้ายที่เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่เจริญเติบโตผิดปกติ โดยเซลล์ผิวหนังจะแบ่งตัวและเติบโตอย่างไม่ควบคุม เซลล์เหล่านี้สามารถลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้มะเร็งผิวหนังเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดชนิดหนึ่ง โดยพบได้ประมาณ 3 ล้านรายทั่วโลกในแต่ละปี มะเร็งผิวหนังสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดหลักๆ ได้แก่

มะเร็งผิวหนัง
  • มะเร็งผิวหนังชนิดเบเซลเซลล์ (Basal cell carcinoma) เป็นมะเร็งผิวหนังที่พบได้บ่อยที่สุด มักพบบริเวณใบหน้า ลำคอ และหู ลักษณะเป็นตุ่มนูน ขอบเรียบ หรืออาจมีลักษณะเป็นตุ่มนูนที่มีขุยหรือสะเก็ด อาจมีเลือดออกหรือตกสะเก็ด บางครั้งอาจมีลักษณะเป็นแผลเรื้อรังที่ไม่ยอมหาย
  • มะเร็งผิวหนังชนิดสะความัสเซลล์ (Squamous cell carcinoma) เป็นมะเร็งผิวหนังที่พบได้บ่อยเป็นอันดับสอง มักพบบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับแสงแดดบ่อย เช่น ใบหน้า ลำคอ แขน ขา ลักษณะเป็นตุ่มนูน หรือก้อนแข็ง ขอบขรุขระ ผิวหยาบ อาจมีเลือดออกหรือตกสะเก็ด
  • มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา (Melanoma) เป็นมะเร็งผิวหนังที่ร้ายแรงที่สุด มักพบบริเวณผิวหนังที่มีสีเข้ม เช่น ใบหน้า ลำคอ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลักษณะเป็นไฝที่มีขนาดโตขึ้น ขอบไม่เรียบ สีไม่สม่ำเสมอ อาจมีเลือดออกหรือตกสะเก็ด

สาเหตุของมะเร็งผิวหนัง

  • การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต(UV) ในแสงแดด เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด
  • การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแหล่งอื่น ๆ เช่น เครื่องอบผิวแทน
  • ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งผิวหนัง
  • ผิวขาว ผมบลอนด์ ตาสีฟ้า 
  • กระ , ไฝ
  • โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • สัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น สารหนู สารตะกั่ว

ลักษณะของมะเร็งผิวหนังอาจแตกต่างกันไปตามชนิดของมะเร็งผิวหนัง แต่โดยทั่วไปแล้ว มะเร็งผิวหนังจะมีลักษณะดังนี้

  • มีแผลที่ผิวหนังที่ไม่ยอมหาย
  • ก้อนเนื้อที่ผิวหนัง
  • รอยดำหรือรอยแดงที่ผิวหนัง
  • สะเก็ดหรือขุยที่ผิวหนัง
  • ผิวหนังที่คันหรือเจ็บ

หากพบลักษณะใดลักษณะหนึ่งหรือหลายลักษณะดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย นอกจากลักษณะภายนอกแล้ว มะเร็งผิวหนังยังสามารถตรวจหาได้โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น การตรวจชิ้นเนื้อผิวหนัง (Skin biopsy) การตรวจทางรังสี (Radiology) และการตรวจทางชีวเคมี (Biochemistry)การตรวจชิ้นเนื้อผิวหนังเป็นการตรวจวินิจฉัยมะเร็งผิวหนังที่แม่นยำที่สุด โดยแพทย์จะตัดชิ้นเนื้อผิวหนังที่ผิดปกติไปตรวจหาเซลล์มะเร็งการตรวจทางรังสี เช่น การตรวจเอกซเรย์ (X-ray) การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computed tomography, CT scan) และการตรวจภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic resonance imaging, MRI) อาจใช้ในการตรวจหามะเร็งผิวหนังที่ลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ การตรวจทางชีวเคมี เช่น การตรวจเลือด (Blood test) อาจใช้ในการตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor marker) ซึ่งเป็นสารที่อาจพบได้ในปริมาณที่สูงกว่าปกติในผู้ที่เป็นมะเร็งผิวหนัง

การป้องกันมะเร็งผิวหนังสามารถทำได้โดยวิธีต่างๆ

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดจัด สวมเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด 
  • ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป 
  • สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด และร่ม
  • หลีกเลี่ยงการอาบแดด

วิธีรักษามะเร็งผิวหนัง

ขึ้นอยู่กับชนิด ระยะ และตำแหน่งของมะเร็ง โดยวิธีรักษาหลัก ๆ มีดังนี้

  • การผ่าตัด เป็นวิธีรักษาหลักสำหรับมะเร็งผิวหนังทุกชนิด โดยการเอาเนื้อเยื่อที่เป็นมะเร็งออกให้หมด การผ่าตัดมีหลายวิธี เช่น
    1. การผ่าตัดแบบมาตรฐาน (Conventional excision) เป็นการเอาเนื้อเยื่อที่เป็นมะเร็งออกให้หมด โดยตัดเนื้อเยื่อรอบ ๆ มะเร็งออกประมาณ 2-3 มิลลิเมตร
    2. การผ่าตัดแบบ Mohs (Mohs micrographic surgery) เป็นการเอาเนื้อเยื่อที่เป็นมะเร็งออกทีละชั้น โดยตัดเนื้อเยื่อออกทีละชั้นเล็ก ๆ แล้วนำไปตรวจทางพยาธิวิทยาทันที เพื่อดูว่ายังมีเซลล์มะเร็งเหลืออยู่หรือไม่ เป็นการทำให้แน่ใจว่าเอาเซลล์มะเร็งออกได้หมด เหมาะกับมะเร็งผิวหนังชนิดแบเซลล์ (Basal cell carcinoma) และมะเร็งผิวหนังชนิดสเควอมัสเซลล์ (Squamous cell carcinoma)
  • การฉายแสง เป็นการฉายรังสีเอกซ์หรือรังสีอื่น ๆ ไปยังบริเวณที่เป็นมะเร็ง เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง เหมาะกับมะเร็งผิวหนังชนิดแบเซลล์และมะเร็งผิวหนังชนิดสเควอมัสเซลล์
  • เคมีบำบัด เป็นการให้ยาเคมีเข้าไปในร่างกาย เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง เหมาะกับมะเร็งผิวหนังชนิดเมลานีน (Melanoma) ที่แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย
  • การรักษาด้วยความเย็น เป็นการจี้เนื้อเยื่อที่เป็นมะเร็งด้วยไนโตรเจนเหลว เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง เหมาะกับมะเร็งผิวหนังชนิดแบเซลล์และมะเร็งผิวหนังชนิดสเควอมัสเซลล์

นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีรักษาอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การรักษาด้วยยาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำลายเซลล์มะเร็งหากพบความผิดปกติของผิวหนัง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากมะเร็งผิวหนังสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ

ปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล